กรุงเทพฯ–วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร-วัดโพธิ์เก้าต้น-ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน-วัดขุนอินทประมูล-วัดสังกระต่าย –วัดม่วง-กรุงเทพฯ
06.00 น.
คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ เพื่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและเป็นไปตามมาตรฐาน SHA เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจวัดอุณหภูมิของลูกค้าเพื่อคัดกรองก่อนขึ้นรถ บนรถจะมีแอลกอฮอล์เจลล้างมือให้บริการ
07.00 น
ออกเดินทางสู่ จังหวัดสิงห์บุรี โดยรถตู้ปรับอากาศ
เช้า
ระหว่างทางบริการอาหารว่าง (มื้อที่1)
09.00 น.
นำท่านเข้าสู่ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาราชธานี นำท่านสัการะขอพร หลวงพ่อพระนอนจักรสีห์ พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ พุทธลักษณะแบบสุโขทัย ที่มีความงดงามมาก มีความยาวทั้งสิ้น 1 เส้น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ และ 7 นิ้ว ลักษณะ พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ พระเศียรหันไปทางทิศตะวันออก พระกรขวายื่นไปด้านหน้า ไม่งอพระกรขึ้นรับพระเศียรแบบไทย พระแก้ว พระกาฬ เป็นพระพุทธรูปนั่งศิลา ลงรักปิดทอง และพระนั่งขัดสมาธิเพชร อันศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงาม ด้านหน้าวิหารมีต้นสาละลังกาใหญ่ ต้นไม้สำคัญ ในพุทธประวัติ ผลิดอกบานสะพรั่ง ภายในตัววัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้บูชา หลายจุด ทั้งรูปปั้นหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ที่อยู่บริเวณหน้าทางเข้า วิหารเจ้าแม่กวนอิม
10.00 น.
นำท่านเข้าสู่ วัดโพธิ์เก้าต้น นำท่านกราบขอพร พระอาจารย์ธรรมโชติ ที่เคารพสักการะของชาวสิงห์บุรีโดยทั่วไปท่านเป็นมิ่งขวัญและพลังใจแก่วีระชนชาวบ้านบางระจันที่ทำให้สามารถเข้าต่อสู้ป้องกันข้าศึกและได้รับชัยชนะถึง 7 ครั้ง เป็นพระที่มีอาคมชั้นเลิศ และชำนาญเรื่องเกี่ยวกับยาสมุนไพร
นำท่านชม ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน ตลาดไทยย้อนยุคบรรยากาศร่มรื่นน่าเที่ยวชม บรรยาก่าศซุ้มจำหน่ายสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติในรูปแบบพื้นบ้าน ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคมานั่งจำหน่ายสินค้า อย่างหลากหลาย
เที่ยง
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย
นำท่านเดินทางสู่จังหวัดอ่างทอง
ออกเดินทางสู่ วัดขุนอินทประมูล ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่แห่งทุ่งโพธิ์ทอง อยู่ในเขตตำบลอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง วัดนี้เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัย กรุงสุโขทัย พิจารณาจากซากอิฐแนวเขตเดิมคะเนว่าเป็นวัดขนาดใหญ่ มีความยาวถึง ๕๐ เมตร (๒๕ วา)
นำท่านเข้าสู่ วัดสังกระต่าย ชมโบสถ์เก่าแก่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมรอบโบสถ์ 4 ต้น รวมถึงปกคลุมภายในโบสถ์ด้วย โดยภายในโบสถ์มีทั้งหมด 3 ห้อง ภายในห้องแรกมีพระบูชา คือ หลวงพ่อแก่น เมื่อเข้ามาในห้องใหญ่มีพระประธานองค์ใหญ่ 1 องค์ คือ หลวงพ่อวันดี และอีก 2 องค์มีขนาดย่อม ลงมา คือ หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ส่วนห้องสุดท้ายเป็นห้อง ว่างเปล่า ตัวโบสถ์ไม่มีหลังคาแต่ร่มรื่น เนื่องจากอาศัยร่มเงาของต้นโพธิ์ที่ปกคลุมจนเปรียบเสมือนหลังคา
นำท่านเข้าสู่ วัดม่วง วัดเก่าแก่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในช่วงเสียกรุง วัดแห่งนี้ก็ถูกเผา เหลือเพียงซากปรักหักพัง จนกระทั่งท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้ธุดงค์มาปักกลดเห็นว่าเป็นสถานที่ที่น่าปฏิบัติธรรม ในระหว่างนั่งสมาธินั้น ท่านได้ปรากฏนิมิตเห็นองค์หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดงบอกว่าให้ช่วยบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นท่านจึงได้เริ่มการปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่างเป็นต้นมา
17.30 น.
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ
18.30 น.
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับภาพความประทับใจ